numkati

ผมรักคุณ! แล้วผมรักคุณแม่มั้ย ทำไมผมร่วงจัง! รีวิวการทำ Medical Treatments : Pora Cool Hair จาก SLC

Posted on กรกฎาคม 20, 2018 by bebekim

ผมเอ๋ย ผมจ๋า.. ใยจากลากันเร็วนัก
ไม่ทันได้ทายทัก เจ้าก็ลักหายวาร์ปไป
กลับมาได้มั้ยเจ้าผมคนดี รออยู่อย่างนี้มันช้ำใจ
เออ! เอาดีๆ จะไม่กลับมาใช่มั้ย
ได้! งั้นเดี๋ยวไป Pora Cool Hair ให้รู้กันไป
จะกลับมาผมสวยสดใสให้ดู!

“ผมรักคุณ.. รักคุณแม่มั้ย ตอบหน่อย! ตอบสิตอบ! คลอดลูกที ผมร่วงเป็นกระจุก! ปัญหาเศร้าๆ ของคุณแม่หลังคลอด”

37344197_10209908869473156_9174004140861292544_o

ผมร่วงเยอะมาก คุณแม่ลูกอ่อน ร้องไห้แพ้พพพ

หลังจากคลอดน้องเจคอปมาได้ 3-4 เดือน ก็รู้สึกว่าผมร่วงมากๆ ซึ่งก็น่าจะเกี่ยวกับการที่ฮอร์โมนต่างๆ ในร่างกายมันเริ่มเปลี่ยนแปลงนั่นเอง เศร้าใจที่สุด! พยายามหาหนทางต่างๆ นานา มาช่วยเยียวยาผมและสงบจิตใจ แต่หลายๆ ทางก็ดูไม่เข้าท่า เพราะมันดันช้าไม่ทันใจคุณแม่ใจร้อน555 ลองทั้งวิตามิน ครีมบำรุงผม หมดเงินไปพอสมควรจ้า555 นี่ล่าสุดมาพึ่งเทคโนโลยีเก๋ๆ สักหน่อย ด้วยความที่บ้านอยู่แถวเอกมัย และทองหล่อก็มีคลินิกเสริมความงามของ SLC อยู่ ซึ่งหลายๆ คนอาจจะคิดว่า SLC น่าจะเน้นไปที่การศัลยกรรม การดูแลผิวพรรณ แต่จริงๆ แล้วเค้าก็มีคลินิกเกี่ยวกับการดูแลผมด้วยนะ บีก็เลยไปลองใช้บริการดูค่ะ วันนี้ก็จะมารีวิวคร่าวๆ ให้ฟังด้วยนะ

37598001_10209908868753138_7405836392237891584_o

มาถึง SLC สาขาทองหล่อแล้ว ถ่ายรูปอัพเดทสีลิปสติกตัวเองสักหน่อย 55 ไม่กล้าถ่ายคลินิก กลัวติดคนอื่น 5555

“อยากคืนดีกับผม เลยให้ Pora Cool Hair ไปง้อสักหน่อย”

บีตัดสินใจทำ Pora Cool Hair ซึ่งเป็นการนำวิตามินเข้าสู่หนังศีรษะเรา โดยเจ้า Pora Cool Hair เนี่ย มีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูเส้นผมลึกถึงรากผมเลยค่ะ เห็นเค้าบอกว่า เป็นการใช้หลักการ Electroporation พร้อมกับการผลักวิตามินควบคู่ไปกับพลังงานความเย็น และบำบัดด้วยแสง LED ไปพร้อมๆ กันค่ะ

37109726_10209908868513132_1041445237597143040_o

เดี๋ยวนี้ผมไม่แข็งแรงแล้วค่ะ แห้งเสียมาก รอผมขึ้นล็อตใหม่แล้วกันเนอะ

เจ้าแสงสีแดง(ในรูปอุปกรณ์ด้านล่าง)จะมีคุณสมบัติในการกระตุ้นการไหลเวียนของเส้นเลือดบริเวณหนังศีรษะ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ หากเราเข้ามาทำการรักษาอย่างต่อเนื่องก็คือ เส้นผมแข็งแรงขึ้น และการร่วงลดลงด้วย แถมยังช่วยให้เส้นเลือดบริเวณหนังศีรษะเราเนี่ย มีการไหลเวียนที่ดีขึ้นด้วยค่ะ

37368515_10209908867873116_4709444220023209984_o

ขึ้นเตียงปุ้บ ก็สยายผมปั้บ เตรียมพร้อม!

“เตรียมตัวยังไง ถ้าจะไปง้อผม”

ส่วนก่อนทำเตรียมตัวยังไงบ้าง ก็ไม่ต้องเตรียมอะไรเลยค่ะ นอกจากเตรียมเงิน555 เพราะต้องเข้าครอสยาวๆ แต่บีเนี่ยมีโอกาสได้ลองทำครั้งเดียว ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นก็อาจไม่ชัดเจนมากนักค่ะ แต่คิดว่าถ้าได้ทำระยะยาว ผมคงสุขภาพดีขึ้นมาก เพราะขนาดทำครั้งแรก ก็ยังรู้สึกว่าผมฟินๆ ขึ้นแล้ว ผมรักคุณแล้ว! โดยก่อนทำเนี่ย บีแนะนำว่าสระผมไปจากบ้านเลยนะคะเป่าให้แห้ง และหลังทำเสร็จ ห้ามสระผม 6 ชั่วโมงค่ะ

“ผมรักคุณ(แม่)แล้วสินะ”

37383006_10209908865833065_5512525971057541120_o

ขั้นแรกพนักงานก็จะเอาอะไรสักอย่างมาปิดตา เหมือนเราทำเลเซอร์ทั่วไปค่ะ จากนั้นก็เปิดเครื่องพ่นไอน้ำ

จากนั้นเมื่อมาถึงคลินิกก็เตรียมพร้อมรับการบำรุงผมได้เลย ไปขึ้นเตียงค่ะ เดินสวยๆ สยายผมร่วงๆ ของเราไป แล้วคุณพี่พนักงานก็จะทำการทาวิตามินที่หนังศรีษะของเรา ซึ่งวิตามินก็จะมาในรูปของไซริงค์ฉีดยาหลอดใหญ่ๆ และพี่พนักงานก็จะถามว่าเราอยากเน้นตรงส่วนไหนเป็นพิเศษ เราก็สามารถแจ้งปัญหาได้เลย

37354287_10209908865713062_4418704281595543552_o

ไอน้ำพ่นๆ หัว มันก็จะอุ่นๆ ฟินๆ หน่อย

จากนั้นพี่พนักงานก็จะทำการทาลงไปที่หนังศรีษะของเรา พร้อมกับใช้เจ้าเครื่องอะไรสักอย่างนวดที่ศีรษะของเรา บอกเลยค่ะ ว่าฟินมากกกก อยากจะหลับไปบนเตียงเลย อิอิ มันเย็นๆ สบายๆ เหมือนปลดล็อกอาการหนักหัวหน่อยๆ ด้วย โอ้ยยย ยิ่งคิดยิ่งฟิน!

37336466_10209908867313102_2281100376931303424_o

พนักงานจัดการเทวิตามินเข้าผมค่ะ โดยจะทยอยเท พร้อมๆ กับเอาเจ้าแสงสีแดงบรรเลงลงศีรษะค่ะ!

37338473_10209908878393379_387172378108493824_o

นึกว่าจะร้อนเหมือนเลเซอร์ ที่ไหนได้ เย็นจ้า ฟินไปโลกหน้าเลย สบายหัวมาก

37334345_10209908868193124_44606563968614400_o

ส่วนที่ทำแล้วมันก็จะเปียกๆ หน่อยค่ะ บีทำเฉพาะส่วนบนศีรษะค่ะ พอดีคุณแฟน(สามี) ชอบทักว่าผมร่วงเยอะนะ ตรงนี้โล่งๆ ปะ บีว่าก็ไม่นะ แค่แสกผมฝั่งนั้นบ่อย เลยบางๆ หน่อย555

ขณะกำลังเคลิ้มๆ เกือบหลับแล้ว แต่ยังไม่ทันได้หลับ.. พี่พนักงานก็ปลุกสักก่อน เสร็จแล้วค่ะ ^^ เสียงใสๆ นั้นพูดพร้อมกับรอยยิ้ม พร้อมกับใช้ไดร์เป่าผมให้

อ๊า.. เสร็จแล้วหรอคะ ลุกก็ได้ ยอมลุกจากมาแบบโดยดี พร้อมกับหวี ที่พี่พนักงานให้เรามาจัดแต่งทรงผม

37537833_10209908866393079_267475088427712512_o

หวีผมสักหน่อย ขอให้ผมหนาๆ สวยๆ ขึ้นเถ๊อะะะะ เพี๊ยงงงง

แค่นี้ก็เรียบร้อยโรงเรียนบำรุงผม! รอนับวันรอผมสวยเลยทีเดียว อิอิ

37347231_10209908865913067_5263432118591029248_o

เจ้าเครื่อง Potra Cool ที่ว่าค่ะ

ถือเป็นประสบการณ์ดีๆ ที่ยอมรับว่ามันฟินมากกกก แอบรู้สึกว่าผมมันร่วงน้อยลงจริงๆ ด้วยแหะ (เห้ยยย ไม่ได้คิดไปเองนะ!) นี่แค่ครั้งแรกนะ คิดว่าถ้าได้ทำอีก ต่อๆ ไปมันน่าจะดีขึ้นแน่ๆ ใครสนใจก็ไปลองใช้บริการกันดูที่ Hair Clinique by SLC นะคะ มีหลายสาขาด้วย ก็ลองไปใช้บริการกันดูเนอะ ได้ผลยังไง มาเม้าส์ให้บีฟังด้วยล่ะ ^_____^

บันทึกวันที่ 366 เมื่อฉันออกผจญภัย เฮ้!!

Posted on ธันวาคม 31, 2016 by bebekim

สวัสดีวันที่ 366 ของปี 2016

เย็นใจ จนต้องมานั่งเขียนบล็อก ถึงปีนี้ที่ฮ่องกงเลย

ปีนี้มาเค้าท์ดาว ที่ฮ่องกงกับพี่ไมค์ (และก็เพื่อนๆ พี่ไมค์ด้วย เดี๋ยวอีกสักพักต้องออกไปข้างนอกแล้ว)

ปีนี้ผ่านมาอย่างรวดเร็ว และเป็นปีที่ทรหดพอสมควรเลย บีว่าหลายๆ คนน่าจะนึกออก กับบรรยากาศเคว้งๆ เพิ่งเรียนจบตอนอายุ 23 ปี

ถึงการเรียนในปี 4 จะทรหดพอสมควร แต่ก็มีโอกาสได้พัฒนาตัวเองเยอะมาก โดยเฉพาะช่วงทำโปรเจ็คจบ

นับเป็นความโชคดีส่งท้ายปี เพราะได้รับรางวัลจากกิจกรรม CSR ของ Toyata ด้วย ได้โคงานกับผู้ใหญ่ทางมหาลัยเยอะมาก ยังนึกขอบคุณมหาลับยมากๆ เพราะมหิดลมีแต่บุคลากรคุณภาพจริงๆ

บีว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของปีที่ผ่านมาเลย แถมจบมาด้วยเกียรตินิยมอันดับ 1 แบบงงๆ โดยเริ่มแรกหวังแค่อันดับ 2 เรียนชิลๆ ไม่กดดัน แต่พอได้อันดับ 1 มาก็ภูมิใจนะ เพราะปริญญาตรี เรียนแค่ใบเดียวนี่น่า

เป็นเรื่องดีๆ ของปีนี้เลย จบมหิดลไป ได้มากกว่าใบปริญญาจริงๆ

สิ่งที่เป็นการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดของปีนี้น่าจะเป็นเรื่องของการทำงานเลย เป็นครั้งแรกที่เคยทำงานประจำแบบเต็มตัว (ก่อนหน้านี้ก็ทำงานมาเยอะมาก ที่ใกล้เคียงกับงานประจำก็เห็นจะเป็นงานสอนพิเศษ) การทำงานจริงๆ ไม่ยากอย่างที่เคยคิดไว้เลย ออกจะอิสระมากขึ้นด้วย เราสามารถกำหนดและจัดการชีวิตเราเองได้หมดแบบสมบูรณ์แบบ แถมการทำงานยังทำให้เราได้พบเพื่อนใหม่ดีๆ เก่งๆ เยอะมาก การทำงานร่วมกับคนเก่งๆ และคนที่มีประสบการณ์แบบโชกโชน ทำให้เราได้ซึมซับหลายๆ อย่าง ที่กระตุ้นตัวเองให้ทะยานไปข้างหน้ามากขึ้น (ตามธรรมชาติ มนุษย์คงมีสัญชาตญาณการเอาตัวรอด ที่ไม่ยอมให้เราเป็นคนโง่ที่สุดในสังคมก็ได้มั้ง เลยผลักดันเราให้ต้องพัฒนาตัวเองเสมอ) การพบเจอกับคนเก่งมากมายในปีนี้ เลยทำให้เราพัฒนาตัวเองไปได้ไกลมาก

จะว่าไป บีตกหลุมรักกับการพบเจอคนเก่งๆ เพราะมันทำให้เราหันกลับมามองตัวเอง และพัฒนาตัวเองมากขึ้นในทุกครั้ง

ขอบคุณบริษัทสตาร์ทอัพอย่าง WorkVenture (Jobnisit) ที่ทำให้เด็กผู้หญิงที่งงๆ กับวัย 23 ได้พัฒนาตัวเองเยอะมาก ถ้าไม่ทำงานกับสตาร์ทอัพคงไม่ได้เจออะไรดีๆ แบบนี้

การทำงานกับบริษัทผลิตสื่อชื่อดังด้านไอที อย่างแบไต๋ ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่บีรู้สึกตื่นเต้นในปีนี้ ถึงจะไม่ได้เป็นพิธีกรไอทีแบบเต็มตัว แต่การได้ก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของแบไต๋ก็ทำให้บีรู้สึกดีกับปีนี้มาก แถมยังได้เขียนบทความต่างๆ ให้แบไต๋ด้วย (โอ้ยยย แกร อดปริ่มกับโอกาสดีๆ ของชีวิตไม่ได้เลย)

จะว่าไปเรื่องบทความ มันเริ่มต้นจากสิ่งที่เราชอบจริงๆ นะ จากตอนแรกแค่เขียนในบล็อกก๊องแก๊งของตัวเอง แล้วต่อมาก็มีพี่เก่ง (นิตยสารดาวคณะ) ชวนไปเขียนเล่น เขียนไปเขียนมา ก็สร้างพอร์ทของตัวเองไปเรื่อย จนทุกวันนี้กลายเป็นบิวตี้บล็อกเกอร์ และนักเขียนไปแล้ว แถมผลงานยังเฟื่องฟู บางอันคนแชร์ไปพันเป็นหมื่น

เรื่องงานเป็นสิ่งที่บีอดฟินในตัวเองไม่ได้จริงๆ

สิ่งที่บีรู้สึกว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อีกอย่างหนึ่งในชีวิต ก็นั่นแหละ การเลิกกับแฟน

คนที่คบกัน ใครจะรู้ว่าวันนึงจะต้องเลิกกันล่ะเนอะ

การเลิกกับใครสักคนตอนอายุ 23 มันไม่ง่ายเลย แต่ก็ได้แต่บอกกับตัวเองว่า “เฮ้ ตอนนี้ชีวิตมันเปลี่ยนไปทุกอย่างแล้ว ถ้ามันจะเปลี่ยนอีกอย่าง เราก็น่าจะรับมันไหวนะ”

ที่เลิกกันไม่ใช่เค้าไม่ดีนะ… เค้าดีมาก ทุกวันนี้ยังคิดถึงความรู้สึกดีๆ เสียงหัวเราะ และรอยยิ้มเค้าได้อยู่

แต่เมื่อวันนึงเราได้เรียนรู้ว่า สิ่งที่ต้องฝืน ต้องปรับ ต้องเปลี่ยน มันเหนื่อยเกินไป.. อาจหมายความว่าเราต่างยังไม่ใช่มากพอ

การเริ่มต้นรักครั้งใหม่ในปีนี้ ก็เปลี่ยนชีวิตบีไปหลายด้านเหมือนกัน

ผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่มากกว่าเรา ทำให้เราได้เรียนรู้ชีวิตในหลายๆ มิติมากขึ้น ทำให้เราต้องพยายามปรับตัวเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นด้วย โลกก็กว้างขึ้นไปอีก…

และแน่นอนว่า ผู้ชายที่เก่งกว่าเรา ก็ทำให้เราได้เรียนรู้ความเก่งจากเค้า

แถมยังรู้สึกว่าเค้าอยู่ใกล้ๆ เราเสมอ แม้ว่าตัวจะอยู่ไกลกันไปหน่อย

สิ่งสุดท้ายที่บีคิดว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ก็คือคนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว หรือเพื่อน

ชีวิตตอนนี้ไม่ได้ใกล้ชิดพ่อแม่เหมือนเดิมเลย แทบไม่ได้เจอพ่อแม่ แรกๆ รู้สึกว่าการดำเนินชีวิตเปลี่ยนไปมากกกก เพราะถ้าพูดตามจริงก็คือตั้งแต่มีชีวิตอยู่มา 22 ปี ไม่เคยมีช่วงไหนที่ต้องห่างพ่อแม่เลย พอต้องย้ายออกมาอยู่คอนโดคนเดียวแล้ว…แรกๆ เหงาสุด ขาดอะไร ก็ไม่เท่าขาดพ่อแม่เนอะ เหมือนขาดใจเลย

แต่ว่านั่นก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เราเข้มแข็งขึ้น และบีก็ผ่านมันมาได้ด้วยดี จนถึงวันนี้

สัญญาว่าปีหน้า จะมูฟตัวเองไปใกล้ชิดพ่อแม่มากกว่านี้ 😀

ส่วนกับเพื่อน จากที่ตัวติดกัน เจอกันบ่อยๆ ก็ต้องห่างกันไป บางคนก็เรียนต่อ บางคนก็ทำงาน บางคนก็ไปเป็นแอร์ ห่างกันไปสุดฟ้าก็มี

แถมเวลาเพื่อนแต่ละคนก็มีช่วงที่ว่างไม่ตรงกัน ทำให้การนัดเจอกันเป็นเรื่องที่ยากมากขึ้น

แต่ถึงตัวจะห่าง แต่ก็ยังรู้สึกว่าเราสนิทกันเหมือนเดิมแหะ

แต่ถึงเพื่อนเก่าจะห่างออกไป แต่ชีวิตก็ทำให้เราเจอคนใหม่ๆ และเป็นเพื่อนกันเพิ่มขึ้น

นี่คือข้อดีของชีวิตมั้ง ที่ทำให้เราต้องยอมรับความเปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่าง เพื่อเตรียมพร้อมสิ่งใหม่ๆ ดีๆ ที่จะเข้ามาในชีวิตเรื่อยๆ

สุดท้าย ขอบคุณปี 2016 ที่ทำให้เราเติบโตขึ้น แม้จะไม่ได้เป็นปีที่สมบูรณ์แบบ แต่ก็เป็นปีที่ทำให้เราก้าวไปข้างหน้า และมองเห็นอนาคตตัวเองแบบชัดเจน

ขอบคุณทุกปัญหา และอุปสรรค ที่กลับมาสร้างประสบการณ์ดีๆ ให้กับเรา

ขอบคุณทุกกำลังใจ และการกระทำดีๆ จากทุกคน ที่ทำให้ชีวิตถูกเติมเต็มด้วยความอบอุ่น

ขอบคุณคนที่จากไป และคนใหม่ๆ ที่เข้ามา ที่ทำให้ชีวิตมีการหมุนเวียนเปลี่ยนไป และได้เรียนรู้

สวัสดีปี 2017 ที่กำลังจะก้าวเข้ามาสร้างความรู้ ประสบการณ์ และความทรงจำดีๆ

Unbox แกะกล่องเจลลดไขมัน! Soul Me Carboxy Body balance Gel ทดลองกันไปเลย ว่าดีชัว หรือมั่วนิ่ม

Posted on ธันวาคม 13, 2016 by bebekim

I choose a lazy person to do a hard job. Because a lazy person will find an easy way to do it. -Bill Gates-

งานคำคมก็มา สะดูดีเลย แต่ก็เพราะความขี้เกียจนี่แหละ ที่ทำให้หลายๆ อย่างในโลกนี้ง่ายขึ้น

เพราะว่ากันว่า คนขี้เกียจ มักหาหนทางที่ง่ายที่สุด ในการทำสิ่งต่างๆ ให้เสร็จเสมอ

และบีคือ 1 ในนั้น!!

โดยเฉพาะเรื่องการลดน้ำหนัก จริงๆ ไม่ได้ขี้เกียจเท่าไหร่ แต่เพราะเวลาชีวิตนั้นก็แทบจะไม่มี ทำงานจันทร์ – ศุกร์ เลิก 6 โมงเย็น ทำเสร็จก็หมดแรงออกกำลังกายแล้ว พอเสาร์อาทิตย์ก็เที่ยวหนักๆ ไม่ก็สลบอยู่บ้าน นานๆ จะได้ออกกำลังกายสักที (นานๆ ที แต่ได้ออกก็ดีใจแล้วเนอะ > <)

แต่เอาจริงๆ ก็ต้องรักษาสุขภาพและรูปร่างกันบ้าง

ความอยากหุ่นดี และความขี้เกียจรวมกัน ก็เลยไปสรรหาผลิตภัณฑ์ตัวช่วยมาเสริม

ไปเจอเจลลดไขมันแบรนด์ Soul Me ของเกาหลีค่ะ Carboxy Body balance Gel นั่นเอง (ที่กล้าสอย เพราะเป็นแฟนพันธ์แท้ของสาวเกาหลี555 และมี อย. ค่ะ) เห็นกำลังฮอตในเน็ต เลยลองสอยเจลลดไขมันมาใช้สักหน่อย

อันที่จริงการฉีด Carboxy นี่ก็ฮิตมากกกกช่วงนี้ แต่ถามว่าบีกล้าฉีด Carboxy แบบคนอื่นมั้ย ก็ไม่กล้า Carboxy แบบฉีดน่ากลัวจะตายยยย > <

รูปร่างเจ้า เจลลดไขมัน หน้าตาก็จะเป็นแบบนี้ค่ะ

มีใบบอกสรรพคุณและวิธีใช้เจลลดไขมันมาด้วย

สรรพคุณที่เค้าเม้าท์ๆ กันคือเจลลดไขมัน คือทำหน้าที่เหมือน Carboxy ค่ะ กระชับสัดส่วน สลายเซลลูไลท์ ไขมันต่างๆ ผิวเปลือกส้ม บลาๆ โดย Carboxy Body balance Gel ต้องใช้คู่กับเจ้า body wrap ค่ะ จุดเด่นคือเจ้าเจลลดไขมัน Carboxy Body balance Gel คือเนื้อครีมไม่ทำให้แสบร้อน แต่เหงื่อจะออกเยอะมากค่ะ

บีว่าวิธีใช้เจ้าตัวนี้ก็สะดวกดี เดี๋ยวมาสาธิตให้ดูคร่าวๆ ดีกว่า

เริ่มจากขอวัดก่อนเนอะ จะได้รู้ว่าได้ผลขั้นไหนนนน

จากนั้น บีจะบีบเนื้อเจลลดไขมัน Carboxy Body balance Gel แล้วแตะๆ ลงไปค่ะ ละเลงให้ทั่วเลยนะคะ ชุ่มๆ หน่อย จะได้เห็นผลชัดเจน อิอิ

เนื้อเจลลดไขมัน Carboxy Body balance Gel จะมีสีใสๆ ออกชมพูหน่อยๆ ลักษณะจะหนืดๆ ข้นๆ ค่ะ กลิ่นหอมมาก หอมแบบยอมใจ หอมแบบสดชื่น

ค่อยๆใช้มือลูบๆ สัก 1 นาที แล้วเนื้อเจลลดไขมัน Carboxy Body balance Gel มันจะค่อยๆ คลายตัวค่ะ

จากนั้นใช้แรพพันลงไปเลย พันรอบๆ ให้กระชับแต่ไม่ต้องแน่นเกินค่ะ ทิ้งไว้ 2-3 ชม.

บีแนะนำว่า ควรใช้ก่อนอาบน้ำนอน หรือหลังกลับจากทำงานหรือเรียน จะได้ล้างเนื้อเจลลดไขมัน Carboxy Body balance Gel ที่เหลือออกได้ค่ะ แต่ถ้าจะทำระหว่างวัน หลังตัดแรพออก ใช้ทิชชูเปียกเช็ดทำความสะอาดก็ได้ค่ะ เพราะเหงื่อออกเยอะมากเลย ถ้าไม่ล้างออก เดี๋ยวผื่นแพ้จากพวกเหงื่อจะขึ้นได้นะคะ

สรุปเลยแล้วกัน เอาไป 9/10 เลยค่ะ

คือ Carboxy Body balance Gel มันลดได้จริงค่ะ!! บีว่าสัปดาห์นึง ทำ 2-3 ครั้งก็น่าจะพอแล้ว คงเห็นผลชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ เนอะ

บีว่าเจ้า Carboxy Body balance Gel คือมันดีงามอะ จริงๆ ถ้าทำควบคู่ไปกับการออกกำลังกายหรือควบคุมอาหารน่าจะดี เพราะบางคนออกกำลังกาย หรือควบคุมอาหารแบบหนักไป แล้วผิวจะหย่อยคล้อย แตกๆ ไม่สม่ำเสมอ การใช้เจ้าเจลลดไขมันตัวนี้ก็ช่วยให้ผิวกระชับขึ้น ช่วยได้เยอะเลย ลองสอยไปลองเล่นดู อาจตื่นเต้นกับผลลัพธ์แบบบี โดยเฉพาะคนที่อยากฉีด Carboxy อาจเปลี่ยนใจ ไม่อยากเจ็บตัว แล้วหันมาใช้ Carboxy Body balance Gel แทนก็ได้

HOW TO แต่งหน้ารับปริญญาเองง่ายๆ ไม่ต้องจ่าย ประหยัดงบ!! + รีวิว แป้งอึดทน VSkin Silky Soft Stay

Posted on กันยายน 7, 2016 by bebekim

สวัสดีค่ะ วันนี้บีบีกลับมาอีกแย้ว กลับมากับการแต่งหน้าลุคส์รับปริญญา

ที่ต้องออกมาแต่งลุคส์นี้ เพราะบีเองก็เพิ่งรับปริญญามาหมาดๆ และแต่งหน้าเองด้วย มีวันที่พลาดบ้าง วันที่มึนบ้าง หน้าเละ เหงื่อตกบ้าง เลยแว๊บมาแชร์ประสบการณ์การแต่งหน้ารับปริญญาค่ะ

เผื่อจะเป็นอุทาหรณ์และเคล็ดลับสำหรับใครไปในตัว

อันดับแรกที่บีจะเตือนเลยคือ รองพื้นต้องเป๊ะจริงค่ะ 5555 วันซ้อมที่บีใช้บีบีนี่บอกเลย หน้าเยิ้มมาก เจอแดดศาลายาแล้วเหงื่ออาบหน้า หลุดหมดเลยค่ะ

อย่างที่2 สำคัญไม่แพ้กันคือ อย่าแต่งหน้าหนาเกิน!! บีแอบสังเกตุเห็นเพื่อนบัณฑิตหลายคนแล้ว ว่าแต่งหน้าหนาไปนี้ดดดด ตอนแต่งมาเรียน แบบอ่อนๆ ยังสวยกว่าแต่งแล้วอีก(แรงโน๊ะ)

อย่างที่3 ขนตาต้องระวัง อันนี้เป็นประสบการณ์ส่วนตัวเลยจ้าา วันรับจริง ขนตาบีดันกระพือจนหลุดออกมา ทีนี้หากาวไม่ได้ ปรากฎต้องลอกออก ดึงขนตาออก อายไลเนอร์กับอายแชร์โดว์ก็หลุดออกมาด้วย เศร้าจัง ฮืออออ

เอาล่ะ เข้าเรื่อง มาดูการแต่งหน้ารับปริญญาในแบบฉบับของบี ที่เรียกได้ว่าเซฟและกันเหนียวสุดๆ เพราะบีเขียนจากประสบการณ์ตัวเองล้วนๆเลยค่ะ ว่าแต่จะมีอะไร มาดูกันนนน

Revlon ColorStay

VSkin Silky Soft Stay Translucent Powder Pact SPF 20 PA+++

Lavome Easy Killing Eyeliner

NARS blush bronzer duo #orgasm

Naked smoky

Lavome Orea Orea Tattoo Tint

Cherub Illamasqua

Drawing Eye Brow Duo

บีเน้นที่เครื่องสำอางน้อยชิ้น ขอจินตนาการถึงการประหยัดงบเนอะ เพราะหลายคนเรียนจบมา งานการยังไม่มีทำ ประหยัดไว้ก่อน เซฟสุดดด

***รองพื้นสำคัญมาก ตัวนี้บีใช้ Revlon ColorStay ค่ะ ถูกและดี แน่น หนา เตอะ (เอ๊ะ ดีหรือไม่ดีนะ แต่มันอยู่ทน จงซื้อเหอะะะะ) บีชอบที่หน้าเป๊ะ และคุมมันมากก เหมือนเกิดมาเพื่องานรับปริญญาโดยเฉพาะเลยค่ะ ดังนั้น เหล่าว่าที่บัณฑิตจงสอยมา เพราะมันจะคุ้มค่ากับคุณ

แต่ถ้าใครอยากประหยัดงบ จบในขั้นตอน ใช้แป้งของ VSkin Silky Soft Stay Translucent Powder Pact SPF 20 PA+++ แป้งพัฟจากญี่ปุ่น ก็โอเคเลยยยย ตบระหว่างวันเพิ่มเติมนิดหน่อย ก็อยู่ทนทาน คุมความมันได้ดีค่ะ เนื้อแป้งโปร่งใส เข้ากับทุกสีผิว บีว่ามันปลอดภัยดี แอบเห็นบัณฑิตบางคนหน้าลอย โน๊วโนวโนวววว ไม่โอเคเลย TT ตัวนี้ให้หน้าเนียนใสเหมือนสาวญี่ปุ่นค่ะ และยังมีสารกันแดดด้วย มีส่วนผสมจากแร่ธาตุจากธรรมชาติ และวิตามิน อี ช่วยบำรุงผิวไปในตัวค่ะ

มี 2 สีให้เลือกค่ะ สี 01 สำหรับผิวขาว สี02 สำหรับผิวสองสี บีใช้เบอร์ 02 นะคะ

วันที่รับปริญญา บีใช้รองพื้นกับแป้งนะคะ แต่ลองลงให้ดู ระหว่างข้างซ้ายลง VSkin Silky Soft Stay Translucent Powder Pact SPF 20 PA+++ กับข้างขวา ลงทั้งแป้ง ทั้งรองพื้น

จริงๆทั้งสองไม่ต่างกันมาก แต่ข้างขวาที่มีรองพื้นด้วย เมื่อผ่านไป 3-4 ชั่วโมง จะเยิ้มน้อยกว่า เมื่อเทียบกับซ้ายค่ะ

ต่อด้วยการเขียนคิ้ว

อันนี้บีว่าใครเขียนแบบไหนแล้วเข้ากับตัวเอง ก็เขียนเลย แต่ต้องเลือกที่ติดทนสักหน่อย เพราะส่วนใหญ่คิ้วเป็นอะไรที่หลุดหายง่ายมาก จากประสบการณ์ตรงนะคะ เพราะเป็นคนหางคิ้วไม่ค่อยมีนั่นเอง ดังนั้นเลยหลายขั้นตอน ***ทั้งแบบดินสอ ถมทับด้วยแบบฝุ่น แล้วตามด้วยมาสคาร่าคิ้วอีกที แนะนำว่าใครมีแบบแทคทูที่ติดทนหลายวัน ก็ใช้ไปก่อนเสต็ปอื่นๆจะดีมาก

แอบกระซิบว่า ดินสอเขียนคิ้วของอินทูดี้ดีมากกก ติดทนนานอันดับต้นๆของตระกูลดินสอเขียนคิ้วเลย

มามะแต่งตากันสักหน่อย

ใช้พาเลจที่มีแล้วกัน บีว่าโทนออกทองๆน้ำตาลๆ เข้าได้กับทุกสีผิว และเป็นอะไรที่สุภาพมากที่สุดแล้ว ดังนั้นบีเลยเลือกแต่งโทนนี้ค่ะ

ใช้สี 1 (ใครไม่มีพาเลทนี้ ให้ใช้สีที่ออกน้ำตาลทอง ทอง หรือเหลือทอง หรือเทาออกทอง ลงนะคะ) ลงให้ทั่วเปลือกตาเลยค่ะ

จากนั้นใช้สี 2,3 ผสมกัน (ใครไม่มี ใช้สีน้ำตาลเข้ม น้ำตาลอ่อน น้ำตาลเทา น้ำตาลส้ม ประมาณนี้ ในการลงหางตา และไล่มาตรงกลางตา) เบลนให้ฟุ้งๆ เข้ากับสี 1 ที่ลงไปค่ะ

เสร็จแล้ว ง่ายมากเลย แต่บีจะบอกว่าง่ายแต่ปังนะ เพราะโทนออกทองๆแบบนี้ เข้ากับสีผิวได้เกือบทุกเฉด ใครแต่งก็ขึ้น เป็นอะไรที่เบสิค แต่กันตายมากๆค่ะ

เอาเศษเหลือๆลงตาล่างด้วยนะคะ จะได้ดูเชื่อมกัน

กรีดอายไลเนอร์และอัดมาสคาร่ากันค่ะ อันนี้ก็ตามทรงตาของแต่ละคน แต่บีว่าเลือกยี่ห้อที่ไม่แพนด้าสักหน่อยดีกว่า(เมเบอลีนตัวนี้ ถูกและดีค่ะ) เหงื่อออกแบบนี้อันตรายมากๆค่ะ บีว่าเว้นๆพวกอินไลเนอร์ไปดีกว่า เพราะส่วนใหญ่ไม่รอดสักแบรนด์ ลองใช้อายไลเนอร์ค่อยๆไล่ตาข้างในแบบไม่ระคายเคืองน่าจะเอาอยู่มากกว่าค่ะ

บีไม่ติดขนตาปลอมในลุคส์นี้นะคะ เพราะจากประสบการณ์ที่ผ่านมา ยังหลอนอยู่ เลยคิดว่าเน้นมาสคาร่าปัดขนตาฟูๆก็พอแล้วค่ะ (ประสบการณ์ขนหวลุก ขนตากระพือหลุดออกมา และหากาวติดไม่ได้)

ไลท์ดั้ง งัดดั้ง และสร้างกรอบหน้า อันนี้ก็แสนสำคัญและห้ามพลาดค่ะ เพราะเวลาถ่ายรูปจะทำให้ดูสวย มีมุมหน้า มีเบ้าดีขึ้นมาทันทีค่ะ เคล็ดลับคือ เลือกบรอนเซอให้เข้ากับสีผิวเราค่ะ เช่น ถ้าขาว ก็อย่าไปใช้บรอนเซอที่เข้มเกิน เพราะจะหลอกตามากๆค่ะ

ทาลิปกัน แอบเห็นหลายคน ปากแดงแจ๊ดดด เอาจริงสีหลากหลายแบบนี้ก็โอเค แต่วันรับจริง อาจทำให้ลุคส์เราสุภาพๆด้วยสีโทนนู้ด และหาทิ้นที่ติดทนๆมาใช้สักแท่งก็โอเคเลย แบบนี้ค่ะ

ปล สี Cherub ของ Illamasqua มันดีมาก กันตายไปอีก เข้ากับทุกคนค่ะ

ปัดแก้มกัน บีเลือกใช้สีโทนพีชๆ จริงๆออกชมพู หรือส้ม ก็สวยเหมาะ

และเอาอยู่กับทุกคนนะคะ ปัดให้เข้ากับรูปหน้าเราก็โอเคแล้ว

เป็นอันจบขั้นตอนค่ะ เน้นสวยสุภาพ ติดทน ติดดี ดูดี และปลอดภัยที่สุด

ไม่อยากให้ใครมาพลาดแบบบีจริงๆ เลยขอแอบแนะนำไว้ค่ะ

ยินดีล่วงหน้า กับบัณฑิตทุกคนค่ะ ขอให้ทั้งเก่งและสวย เป็นที่ภูมิใจของตัวเอง และพ่อแม่ค่ะ ^^

รีวิวสบู่ผิวใส Puricent whitening whip soap ฟองฟู วิปโฟมเด้งดึ๋ง

Posted on สิงหาคม 18, 2016 by bebekim

สวัสดีค่ะทุกคน บีกลับมาแล้ว เฮ้ กับสบู่วิปโฟมเด้งดึ๋ง Puricent whitening whip soap

ปกติวิปโฟมเราจะเห็นในลักษณะโฟมล้างหน้าใช่มั้ยคะ แต่เดี๋ยวนี้มาในรูปแบบสบู่แล้ววววว

แพ็คเก็ทเป็นกล่องชมพู ขาว แบบนี้

ก้อนสบู่เป็นสี่เหลี่ยมเป็นสีขาว กลิ่นจะออกหอมอ่อนๆ แต่ใช้แล้วติดผิวดีมากเลยค่ะ คือหอมยาวนานมากสรรพคุณของแบรนด์ Puricent whitening whip soap คืออ “เป็นสบู่ที่มีส่วนผสมของผงไข่มุกแท้จากธรรมชาติ ซึ่งผงไข่มุกจะช่วยในการผลัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพให้หลุดออก พร้อมช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวใหม่ให้ขาวใสและแข็งแรงขึ้น”

“ใช้ไปทุกวันจะยิ่งทำให้ผิวใส สุขภาพดี บีชอบที่อ่อนโยนต่อผิว ข้อแตกต่างจากสบู่เร่งขาวทั่วไปคือ ไม่ใส่กรด AHA ไม่ใส่สารเคมีค่ะ ซึ่งตัวนี้ใช้แล้วผิวไม่บางลง ไม่ทำให้ผิวแห้ง และไม่ทำร้ายผิวในระยะยาวด้วย”

ชอบที่ทำฟองฟูๆได้ดีงาม พระรามแปดมากๆ ฟองเยอะสะใจเลยค่ะ

โดยส่วนตัวใช้แล้วบีรู้สึกว่าเห็นผลในเรื่องของผิวเนียนขึ้น ตั้งแต่ครั้งแรกๆที่ใช้เลยค่ะ เคล็ดลับคือบีพอกทิ้งไว้ 3 นาที เหมือนมาส์กผิวตัว ซึ่งมันโอเคมากกกก คือผิวใสขึ้นจริงๆค่ะ

มาดูวิธีใช้ในรูปแบบวิดีโอกันดีกว่าาา

ถือเป็นสบู่ที่โอเคมากๆอีกตัวนึงเลย

โรจูคิส เวชสำอางสกัดเย็นกลับมาแล้ว พร้อมรีวิวทดสอบความขาวด้วยเซรั่มที่ทาได้ทั้งหน้า และรอบดวงตา

Posted on สิงหาคม 2, 2016 by bebekim

สวัสดีค่ะชาวโลกทุกคน เฮ้

“เซ็งอะแก โรจูคริสที่ฉันใช้ประจำ หายไปแล้ว”

“ไอ้บ้า มั่วๆๆๆ เค้าบอกว่าเปลี่ยนชื่อแบรนด์เป็น RJK แทนย่ะ”

“ใช่มั้ง แต่จะเหมือนเดิมรึเปล่าก็ไม่รู้ เซ็ง อยากได้โรจูคิสคืน”

จำได้ว่าเพื่อนสนิทบีคนนึง เคยคุยเรื่องนี้กับบี นางเป็นคนที่ติดโรจูคิสมากกกกก และพอเปลี่ยนชื่อเท่านั้น นางก็กลัวทันทีว่าจะไม่เหมือนเดิม 55555 แต่บีจะบอกว่า ใครที่ห่างหายจากแบรนด์ดังอย่างโรจูคิส เวชสำอางสกัดเย็น รายแรก และรายเดียว จากเกาหลี จะต้องดีใจแล้วแหละ เพราะว่าตอนนี้ Rojukiss นาง Come back แล้วจ้าาา และดีกว่าเดิมด้วย

บีเองค่อนข้างตื่นเต้นพอสมควรเลย >< พอรู้ว่าโรจูคิสกลับมาอีกครั้ง ดีต่อผิว และดีต่อหัวใจ ❤ แน่นอนว่าวันนี้บีไม่ได้มาเดี่ยวๆ เพราะจะธรรมดาเกินไป หุหุ แต่จัดเต็มมาเป็นเซ็ท เซ็ทที่จะทำให้ผิวใสวิ๊งงงง ไอ๊ย่ะ

ว่าแต่ดียังไงบ้างงงงง อย่าช้าดีว่าเนอะ มาดูกันเต๊อะ

เริ่มจากตัวแรกกันเลยดีกว่า Rojukiss White Poreless Advanced Repair Serum

ความฮอตและเก๋ที่แบรนด์เคลมมาคือ “ผิวอ่อนแอ-แก้ปัญหายาก” ดีที่สุดจากศูนย์วิจัย LAB DERMA Rx พิสูจน์และรับรองโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเกาหลี โดยบอกเห็นผลจริงใน 14 วัน*”

และบีก็เป็นหนึ่งคนที่ผิวอ่อนแอสะด้วยจิ เลยแอบสนใจเป็นพิเศษเลย

ตัวนี้เป็นเซรั่มสกัดเย็นค่ะ รู้นะ มีคนงง ว่าการสกัดเย็นมันคืออะไร

บีเลยไปค้นๆมาให้แย้วววว การสกัดเย็นคือ การสกัดสารสำคัญโดยไม่ผ่านกระบวนการความร้อนค่ะ เลยไม่ทำลายประโยชน์ของสารสำคัญต่างๆ ในเนื้อครีม หรือ เนื้อเซรั่ม ทำให้

ตัวเนื้อผลิตภัณฑ์เจ้มจ้นมากกก เข้มข้นจริงๆค่ะ ทาแล้วผิวชุ่มชื้นขึ้นทันทีเลย

ความเก๋ของตัวนี้คือ เพียงแค่แตะตัวเนื้อผลิตภัณฑ์ที่ผิว เท่านั้นแหละ เนื้อผลิตภัณฑ์จะแตกตัว และรู้สึกได้เลยว่าซึมเข้าผิวทันที เพราะเทคโนโลยีการสกัดเย็น ทำให้ตัวเนื้อผลิตภัณฑ์มีขนาดเล็ก เลยทำให้ซึมเข้าสู่ผิวได้รวดเร็ว ทำให้ผิวเราได้รับสารอาหารที่บริสุทธิ์ใหม่อย่างเต็มที่ ทำให้เห็นผลได้ชัดเจน

ตัวนี้ช่วยพวกรูขุมขนกว้าง และก็หลุมสิว รอยสิว อันนี้ชอบมาก > < ได้โรจูคิสมากอบกู้ช่วยเหลือรอยสิวค่ะ ตัวนี้อ่อนโยนมาก และแจ้งเลยว่า โรจูคิส เป็นแบรนด์เดียวที่สามารถทาใต้ตาได้ ช่วยเรื่องใต้ตาคล้ำ และพวกริ้วรอยต่างๆด้วยค่ะ ชอบตรงนี้แหละ ไม่ต้องซื้อ eye cream แพงๆเลย เหมือนซื้อตัวเดียวได้คุ้มทั้งใบหน้า ทั้งรอบดวงตา ประหยัดไปเยอะเลย ช่วยเรื่องความกระจ่างใสของผิว โดยไม่ใช่แค่กระจ่างขึ้นแป๊บๆนะคะ แต่ถ้าแบรนด์เคลมว่าไม่กลับมาคล้ำอีก ดุจออร่า 5 มิติแหน่ะ

วิธีใช้ : หลังทำความสะอาดผิวหน้า หยดเซรั่ม 2-3 หยด ทาทั่วใบหน้าและรอบดวงตา วันละ 2 ครั้ง ทั้งเช้า-เย็น

ทาเซรั่มกันไปแล้วมาต่อกันที่ครีมดีกว่า กับ Day cream นั่นคือเจ้า Rojukiss White Poreless Advanced Repair Day Cream

ครีมกลางวัน บำรุงและปกป้อง 30 เท่าเลย ตัวนี้เช่นกัน อ่อนโยนมาก ดังนั้นทาได้ทั้งใบหน้าและรอบดวงตาค่ะ คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม 55555

ไลน์ด้วยกันกับตัวข้างบนดังนั้นตัวนี้ช่วยเรื่อง รูขุมขนกว้าง เรื่องผิวคล้ำสะสม และก็ริ้วรอยที่เห็นชัด สีผิวไม่สมำ่เสมอตัวนี้ช่วยได้ คอนเฟิม ผิวกระจ่างใส 5มิติ

วิธีใช้ : หลังขั้นตอนการทาเซรั่ม ทาเดย์ครีมให้ทั่วใบหน้าและรอบดวงตา ในตอนเช้า

เนื้อผลิตภัณฑ์ทาแรกๆยังเข้มข้น จากนั้นก็แตกตัว จนซึมเข้าผิว ไม่วอก ไม่ลอยค่ะ

เพราะปกติมีบางแบรนด์นะ ทาแล้วหน้าจะลอยมากเลย แต่อันนี้รู้สึกว่าทาแล้วหน้าดูกระจ่างใสขึ้นอีกนิดนึง เหมือนเป็นเบสปรับสีผิวบางๆสะมากกว่า ซึ่งบีชอบนะ ดูพอดีมากเลย อีกอย่างที่ชอบคือ ทาแล้วระหว่างวัน หน้าไม่มัน ไม่เยิ้มค่ะ ใช้แทนกันแดดได้ด้วย

มาต่อกันที่ตัวสุดท้ายของวันนี้ Night cream ค่ะ Rojukiss White Poreless Advanced Repair Night Cream

ตัวนี้สรรพคุณเหมือน 2 ตัวบนเลย แต่ บำรุงให้ครบวัน ครบเซ็ท จะได้เห็นผลได้รวดเเร็วและชัดเจนมากยิ่งขึ้นเนอะ

เนื้อผลิตภัณฑ์ก็มีความคล้ายตัวครีมกลางวัน แต่จะบางเบากว่าค่ะ บีรู้สึกว่าไม่ได้ให้การปรับสีผิวทันที เหมือนเจ้าตัวกลางวันนะ คือไม่ได้เป็นเบสปรับสีผิวนั่นเอง เนื้อครีมเป็นสูตรเข้มข้น เลียนแบบการซ่อมแซมผิวช่วงเวลา 4 ทุ่ม ถึง ตี 2 สามารถเลือกได้ว่าทาบำรุงอย่างเดียว หรือ มาส์กทิ้งไว้ตอนกลางคืนดีมากๆ แตกตัวและซึมเข้าผิวแบบทันทีทันใดค่ะ

วิธีใช้ : หลังขั้นตอนการทาเซรั่ม ทาครีมให้ทั่วใบหน้าและรอบดวงตา ในตอนกลางคืนค่ะ

โดยรวมทั้ง 3 ตัวนี้ หลังใช้กับผิวหน้าแล้ว บีรู้สึกว่าใบหน้านุ่มขึ้นค่ะ ตัวเซรั่มและไนท์ครีมซึมเข้าผิวไวมากกกกกก ส่วนตัวเดย์ครีม อันนี้บีชอบที่เป็นเบสปรับสีผิวเราแบบพอดี ไม่วอก ไม่ลอย และชอบที่เนื้อผลิตภัณฑ์แตกตัวและซึมเข้าผิวไวมากกกกกก !! ทาแล้วไม่เหนอะหนะหน้าเลย

ถามว่าบีใช้ไปสักพัก ผลเป็นยังไงบ้าง ชัดเจนมั้ย

ตอบเลยว่า ชัดเจนค่ะ !! ถ้าคะแนนเต็ม 10 บีให้ 9.5 เลย เพราะ บีสัมผัสได้เลยว่ารอยสิวลดลงจริงๆ (ลดแบบจริงจัง ลดแบบเห็นได้ชัด ลดแบบรวดเร็ว) และสิวก็ไม่ขึ้น ผด ผื่น แพ้ ไม่มีให้เห็นเลยค่ะ บีว่าเป็นผลิตภัณฑ์อีกตัวที่ดีมากๆ และควรจะลองซื้อมาลองกันสักตั้ง ไม่งั้นอาจจะพลาดของดีได้ (พูดจริงๆนะ นี่ปลื้มจริงจังงงงงง ต้องลองๆ)

ถือว่าเป็นอีกแบรนด์ที่บีชอบมาก แมม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีคนแนะนำมาเยอะ แต่ก็ไม่ได้ลองจริงๆจังๆสักที ครั้งนี้เป็นครั้งแรกเลย และตื่นเต้นพอสมควร พอใช้แล้วก็รู้สึกว่าเห้ยยยย ดีงามพระรามแปด สมชื่อเสียงเรียงนามเลย ด้วยราคาและคุณค่าแบบนี้บีว่าคุ้มมากค่ะ เพราะส่วนตัวบีรู้สึกว่าใช้แล้วผิวดีขึ้นแบบเห็นได้ชัดจริงๆโดยเฉพาะเรื่องความกระจ่างใส รูขุมขนกว้าง รอยสิว และ ริ้วรอยต่างๆ คือเป็นอะไรที่ช่วยได้เยอะมาก

แต่เดี๋ยวบีจะมาทดสอบให้ดูกันค่ะ พูดลอยๆไม่ได้ๆๆๆ โดยทดสอบความมันของเนื้อผลิตภัณฑ์ และทดสอบผลลัพธ์ความกระจ่างใสค่ะ

ในเรื่องความมัน ทดสอบด้วยกระดาษซับมันกันดีกว่า

อันนี้บีลองให้ดูกับผิวเลยนะคะ

จะเห็นว่าหลังทาทันที แล้วซับด้วยกระดาษซับมัน ไม่มีคราบความมันออกมาเลยค่ะ

มาลองกับผิวจริงบ้างงงงง หลังทาที่ใบหน้าในตอนเช้า โดนแดด โดนลม และตากแอร์

ผ่านไปประมาณ 7 ชั่วโมง ผลลัพธ์ออกมาแบบนี้ค่ะ

บีตกใจมากกก เพราะปกติหน้าบีจะมันมาก โดยเฉพาะทีโซน นี่ปรากฏว่า หน้ามันแค่นิดเดียวววว ปกติกระดาษซับมันนี่ชุ่มไปแล้วนะ

มาต่อกันด้วยการทดสอบด้วยไอโอดีนค่ะ ยิ่งทำปฏิกิริยาให้ไอโอดีน ใสได้มากเท่าไหร่ แปลว่าสามารถทำให้ผิวกระจ่างใสได้เท่านั้น มาดูกันเถอะ

หลังจากหยอดไอโอดีนลงในแก้วน้ำแล้ว คนๆๆๆ หยดผลิตภัณฑ์ลงไป ผลลัพธ์ก็ออกมาแบบนี้ค่ะ

น้ำใสขึ้นแบบเห็นได้ชัดเลยยยยย ภาพนี้ขออภัย เผลอไปสลับแก้วนิดนึง แต่ทุกคนก็เห็นชัดเจนเลยใช่มั้ยคะ ว่าแก้วที่หยดโรจูคิสเซรั่มสกัดเย็นลงไป น้ำเปลี่ยนเป็นสีขาว นั่นแสดงว่าผลิตภัณฑ์ตัวนี้ช่วยทำให้ผิวเราสว่างใสได้จริงนั่นเองค่ะ

นอกจากนี้ โรจูคิสยังมีไลน์อื่นๆที่น่าสนใจอีก 4 ตัวแหน่ะ

White Poreless Advanced Repair เน้นเรื่องความขาวใสค่ะตัวนี้ที่บีใช้

Wrinkle Poreless Firming ตัวนี้เด่นเรื่องริ้วรอยเลย ผิวกระชับ ตึงเป๊ะ

Snail Poreless Gold Collagen ตัวนี้มีเมือกหอยทากกระดองสีทอง ผสานทองคำบริสุทธิ์ 99.99% เน้นเรื่องผิวนุ่มชุ่มชื่นยาวนานค่ะ

Acne Poreless Oil Control ช่วยควบคุมความมัน แก้ปัญหาสิวเกิดซ้ำ

ผลิตภัณฑ์โรีจูคิส เวชสำอางสกัดเย็น มีจำหน่ายที่ Watsons, Boots, Tesco Lotus, Big C, Tops, Eveandboy, MaxValu และร้านค้าชั้นนำทั่วไป

เพื่อนๆลองไปหาข้อมูลเพิ่มเติมกันที่นี่ค่ะ

http://www.rojukiss.co.th

http://www.facebook.com/rojukissthailand

http://www.instagram.com/rojukiss

Line: @rojukiss

เป็นยังไงกันบ้างคะ สำหรับการกลับมาของโรจูคิส ที่บีบอกเลยว่าไม่ธรรมดาจริงๆ ยิ่งใช้เป็นเซ็ทยิ่งดี ยิ่งเห็นผลเร็วขึ้นนะคะถ้าอยากรู้ว่าเวชสำอางสกัดเย็นเป็นยังไง เพื่อนๆ ต้องลองพิสูจน์!!!!

มาผิวสวยใสด้วยกันเถอะ

Posted on สิงหาคม 1, 2016 by bebekim

“ใครมีรอยสิว มีริ้วรอยบ้างงง มาทางนี้ค่ะ”

อะแฮ่มๆ ที่ต้องเกริ่นมาแบบนี้เพราะวันนี้บีแว๊บมาแนะนำอาหารเสริมสำหรับสาวๆรักสุขภาพค่ะ

นั่นคืออาหารเสริมทาซานิคอลลาเจน Tasani Collagen

คอลลาเจนนี่เป็นอะไรที่สำคัญมากๆ โดยเฉพาะสาวๆที่เริ่มเข้าสู่ช่วงวัยที่มากขึ้น (จริงๆแล้วบีอายุ 23 ก็เริ่มทานเผื่อไว้แล้วนะ) เพราะคอลลาเจนจะทำให้ผิวเราสวย สุขภาพดี เตร่งตึงนั่นเอง

ถามว่าตัวนี้ช่วยเรื่องอะไรบ้างงงง ที่เห็นชัดเจนเลยคือช่วยในการต้านอนุมูลอิสระ ลดสิว รอยสิว และริ้วรอยต่างๆ ทำให้ผิวสวยสุขภาพดีขึ้น และผิวมีเลือดฝาดและต้านทานแสงแดดได้ดีขึ้นค่ะ

ผิวจะได้กลับไปนุ่มนิ่มน่าหยิกเหมือนผิวเด็กเนอะ > <

แพคเกจสวยมากกก เป็นสีชมพูหวานๆ ลายดอกไม้ วินเทจมากค่ะ ข้างกล่องมีรายละเอียดเกี่ยวกับส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ คอลลาเจน และส่วนใหญ่จะเป็นวิตามินต่างๆ เรียกได้ว่าจัดเต็มมากค่ะ

สำหรับคอลลาเจนของ Tasani Collagen เป็นชนิดแคปซูลค่ะ โดยประกอบด้วยคอลลาเจนเปปไทด์โมเลกุลเล็ก ซึ่งดูดซึมง่ายและเห็นผลเร็วค่ะ

นอกจากนี้ยังมีอาหารผิวอื่นๆอีก โดยมีวิตามินอีกหลายชนิดค่ะ

ไม่ว่าจะเป็นวิตามินซี นอกจากจะช่วยเรื่องภูมิแพ้ และไข้หวัดต่างๆแล้ว ยังช่วยเรื่องผิวใสด้วย ซึ่งเป็นอะไรที่ทุกคนควรทานเป็นประจำทุกวันอยู่แล้วเนอะ

วิตามินอี ช่วยเรื่องการป้องกันการเกิดลิ่มเลือดและการอุดตันของเส้นเลือด

และช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื่นมากขึ้นด้วยค่ะ สาวผิวแห้ง ต้องชอบแน่ๆ

ไนอะซินาไมด์ หรือ วิตามินบี3 ทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้น และช่วยให้ผิวแลดูขาวกระจ่างใสขึ้นค่ะ

วิตามินเอ ตัวนี้ช่วยเรื่องสายตาสุดๆ ใครใช้สายตาเยอะๆ พนักงานออฟฟิส บีว่าควรทานเลย

นอกจากนี้ยังมีวิตามินเค และวิตามินบี 2 , 6 , 12 ด้วยค่ะ

ที่ชอบอีกอย่างเพราะมีส่วนผสมของเมล่อน มะเขือเทศ โคเอนไซม์ คิวเท็น และอะเซโรล่าเชอร์รี่ด้วยค่ะ

(มีสารต้านอนุมูลอิสระดังนี้ 1.Melon Extract 2.Rosehip Extract 3.Acerola Cherry Extract 4.Citrus Bioflavonoids 5.Coenzyme Q10 6.Tomato Extract 7.Vitamin-Premix หรือวิตามินรวม)

สำหรับคอลลาเจน Tasani ปลอดภัยหายห่วงค่ะ เพราะมี อย. ชัดเจนเลย

โดยส่วนตัวบีหลังทานแล้ว รู้สึกว่าสิวและแผลเป็นต่างๆลดลงค่ะ น่าจะเพราะตัวนี้ช่วยได้เยอะ ผิวเนียนขึ้น นุ่มขึ้น ส่วนความกระจ่างใสอันนี้บีไม่ได้สังเกตุ แต่รู้สึกว่าเรียบเนียนซะมากกว่า

อีกอย่างคือ หน้าไม่ค่อยหลอน ไม่ค่อยโทรม ถึงแม้ว่าช่วงนี้จะทำงานแล้วนอนดึกมากกกกกก

สำหรับตัวนี้ ราคา 590 บาท (30แคปซูล)

สามารถซื้อได้ทางFacebook: Tasani Collagen Line: Tasanicollagen IG: Tasani_collagen

ใครสนใจ ลองติดตามที่เพจนี้เลยนะคะ

www.facebook.com/Tasanicollagen

‪#‎tasanicollagen‬ ‪#‎tasani‬ ‪#‎collagen‬ ‪#‎antioxidant‬ ‪#‎supplement‬ ‪#‎ทาซานิ‬ ‪#‎ทาซานิคอลลาเจน‬

รีวิว ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ ผิวใส ตาสวย <3

Posted on กรกฎาคม 29, 2016 by bebekim

สวัสดีค่ะทุกคน พบกับบีกันอีกแล้ว แน่นอนว่ากลับมาคราวนี้ ต้องพกอะไรมารีวิวอีกนั่นแหละ

สำหรับวันนี้บียกอาหารเสริมตัวที่บีกำลังติดใจและทานบ่อยๆในช่วงนี้มารีวิวค่ะ จะเป็นอะไรไปไม่ได้เลย นอกจาก แต่นแตนแต๊นนนนน 4D+ (Demo Dietary Supplement product) ค่ะ

หลายคนงงว่าเจ้าตัวนี้ทำไมต้อง 4D สาเหตุที่ต้อง 4D บีเดาว่าเป็นเพราะเจ้าตัวนี้ครบครันด้วยคุณสมบัติหลายๆอย่างค่ะ ว่าแต่คุณสมบัติอะไรบ้างนะ…

SOD หรือเมล่อนฝรั่งเศสนั่นเองค่ะ เจ้าตัวนี้จะมี Super antioxidants เป็นเอนไซม์ที่ช่วยกำจัดอนุมูลอิสระ ช่วยเรื่องริ้วรอย ผิวแห้ง ผิวเหี่ยว ผิวพัง และที่บีชอบมากคือช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดด้วย

Callus stem cells จากบริษัท Bio-Zelle ประเทศเยอรมัน สเต็มเซลล์จากเรดเคอร์แรนท์ คนส่วนใหญ่พอจะทราบและคุ้นเคยกับชื่อเสียงเรียงนามของสเต็มเซลล์อยู่แล้วเนอะ ว่ามีคุณสมบัติซ่อมแซมเซลล์นั่นเอง

Space Gluta- Pico Gluta- Glutathione เป็นกลูต้าโมเลกุลเล็ก(ที่สุด) ขนาดเล็ก10-12 เล็กกว่านาโน 1000 เท่า โดยเกิดจากกรดอะมิโน3ชนิดที่เป็นสารตั้งต้นของการสร้างกลูต้าไธโอนที่ตับของร่างกาย ช่วยกำจัดสารพิษและโลหะหนักจากร่างกาย และยับยั้งการสร้างเม็ดสีผิว เจ้าตัวนี้เลยช่วยให้ผิวใสและไบรท์ขึ้นค่ะ

Brightening natural fruit จากสตอเบอรี่สีขาว ตัวนี้ก็ลดการสร้างเม็ดสี และช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนค่ะ

Super natural vitamin Cอจาก Acerola Cherry ช่วยให้ผิวกระจ่างสว่างใส เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย และทำให้ผิวแข็งแรง

จะเห็นว่าส่วนผสมต่างๆเหล่านี้ ไม่ได้ทำให้ผิวดี สวยวิ๊งแค่ชั่วคราว แต่ทำให้เห็นผลในระยะยาวแม้ว่าเลิกทานค่ะ เพราะส่วนใหญ่จะเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายผลิตสารที่จำเป็นออกมาเอง เช่น ปกติทานคอลลาเจนเข้าไป แล้วไม่เห็นผล หรือทานกลูต้าแล้วผิวใสขึ้นเพียงไม่นาน ก็กลับมาเหมือนเดิม แต่ตัวนี้ต่างจากตัวอื่นๆเพราะเหมือนเป็นสารตั้งต้นนั่นเองค่ะ ทานแล้วไม่สูญสลายไปเหมือนการทานคอลลาเจนทั่วๆไป

วิธีทานก็ง่ายค่ะ บีชอบทานแบบชงดื่ม เพราะเหมือนเราได้ทานน้ำไปด้วย

จะได้หลายต่อ (ก็น้ำเปล่า ไร้รส ไม่อร่อยนี่น่า) หรือใครจะทานแบบกรอกใส่ปากเลยก็ได้นะคะ แล้วแต่ความชอบเลย

ดื่มๆๆๆ เข้าไปเลยยยย~

โดยส่วนตัวหลังทานไปสักพักสัมผัสได้เลยว่าผิวดีขึ้น เป็นหวัดน้อยลง(บีเป็นภูมิแพ้ มีจามบ่อยๆ แต่พอทานตัวนี้รู้สึกโอเคเลย อาการเริ่มเลือนลางไปค่ะ) ตัวนี้เคลมมาว่าช่วยเรื่องสายตาด้วย บีคงต้องลองอีกสักพัก เพราะตอนนี้ตาเริ่มมีอาการแห้งจากการใส่คอนแทคเลนส์นานๆบ้างแล้ว อิอิ

หากใครสนใจลองติดต่อหาข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.4dplus-official.com ค่ะ

ใครเป็นภูมิแพ้มาทางนี้ บีมีตัวช่วยดีๆมาบอกแหละ

Posted on มิถุนายน 18, 2016 by bebekim

สวัสดีค่ะชาวโลก เรากลับมาอีกครั้งแล้วววว

หลังจากปิดจ็อบ ส่งงาน ส่งการที่มหาวิทยาลัยเสร็จเรียบร้อย ก็เข้าสู่วัย first jobber แบบเต็มตัว เฮ้

แล้วก็ต้องเนรเทศตัวเองออกจากบ้านมาอยู่คอนโด

ฤกษ์งามยามดี ไหนๆก็เปลี่ยนที่อยู่แล้ว บีเลยจำเป็นต้องเปลี่ยนที่นอนด้วย 5555

เอาล่ะ วันนี้จะมารีวิวเครื่องนอนชุดใหม่ สดใสกว่าเดิม นั่นคือชุดเครื่องนอนของ SANTAS นั่นเองงง

ต้องบอกก่อนว่า เห็นบีแข็งแรงๆแบบนี้ จริงๆมีโรคประจำตัว อันเป็นโรคฮิตของทุกคนนั้นคือ โรคภูมิแพ้นั่นเอง

แพ้ฝุ่น แพ้หญ้า แพ้อาหารบางครั้งบางคราว ทำให้ทั้งจาม ทั้งฟุตฟิตๆบ่อยๆ เหนื่อยใจโน๊ะะะะ

แต่จ้าที่นอนตัวนี้ช่วยได้เยอะมากกกกกกกก เหมือนเป็นตัวช่วยของคนที่เป็นภูมิแพ้แบบบีเลยหล่ะ

สำหรับผ้าปูที่นอนของ Santas เป็นผ้าปูที่นอนคุณภาพ และเป็นผ้าปูที่นอนป้องกันไรฝุ่นได้

ซึ่งแน่นอนว่าคนที่เป็นภูมิแพ้แบบบีนี่คือชอบมากกก เกิดมาเพือสิ่งนี้จริงๆ

คุณสมบัติเก๋ๆที่ทำให้กันไรฝุ่นได้คือ การผลิตจากเส้นใยฝ้าย “Supima” จากอเมริกาค่ะ เส้นใยมีความแข็งแรงมากกว่าเส้นใยปกติค่ะ ทำให้เนื้อผ้านุ่ม ลื่นและก็อึดมากกก ระบายอากาศได้ดีด้วยค่ะ ที่บีชอบที่สุดคือมีคุณสมบัติยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรีย ช่วยป้องกันไรฝุ่น และไม่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ด้วยยยย

ลายที่เห็นคือลาย Minimal collection นะคะ เรียบๆร้อยๆ เหมือนบี (หืมมมม ใช่หรอ ? 55555) ล้อเล่นค่ะ555 สีเข้ากับน้องหมีของบีพอดีเลยเนอะ

ก่อนหน้านี้บีค่อนข้างป็นภูมิแพ้บ่อยๆ จามฟึดฟัดๆตลอดเวลา555 ตอนเช้าบางครั้งมีอาการตาบวมๆด้วยค่ะ พอใช้แล้วโอเคขึ้นมากกกกกกกกกกกกก ชีวิตเปลี่ยน อาการแบบเดิมน้อยลงแบบเห็นได้ชัดเลยแหละ

บีว่าคนที่เป็นภูมิแพ้จะเข้าใจฟิลเนอะ ว่ามันทรมานมากแง้ T^T

บีค่อนข้างพอใจเลยนะ เหมือนสต็อปอาการภูมิแพ้ได้เยอะ เพราะบีเป็นพวกเลอะเทอะ ห้องรก 5555 พอได้เจ้า santas มาก็ช่วยได้เยอะ ถ้าให้คะแนนเต็ม 10 เอาไป 8.5 เลยค่ะ

ทำกิจวัตรนู่นนี่ง่ายขึ้น อยากอยู่ในห้องนอนมากขึ้น เพราะไม่แพ้ไรฝุ่นในที่นอนแล้ววว

สำหรับวันนี้ต้องขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะคะ วันเสาร์อาากาศดีๆแบบนี้ ต้งนอนกินบ้านกินเมืองสักหน่อย 5555

บ๊ายๆค่ะ

แล้วเจอกันใหม่นะคะ ^__^

LANCOME Juicy Shaker ลิปสติกสูตรน้ำ เนื้อฉ่ำสุดๆ

Posted on พฤษภาคม 22, 2016 by bebekim

สวัสดีค่ะสาวๆทุกคน พบกับบีบีอีกแล้ว กับชีวิตหลังสอบเเสร็จมามาดๆ จะบอกว่าช่วงสอบมีไอเท็มอันนึงที่บีเห่อมาก อยากได้มาก แบบเห็นรีวิวของต่างประเทศปุ้บ หลงรักทันที นั่นคือ LANCOME Juicy Shaker ลิปสติกสูตรน้ำเก๋ไก๋นั่นเองงงงง

เกิดมาเพิ่งเคยเจอ Lip Oil ที่ต้องใช้การเขย่าขวดก่อนใช้ คือมันเก๋มากอะ และเปิดตัวในไทยประมาณต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมานี้เอง และในที่สุดบีก็ได้มันมาครอบครอง วะฮะฮะฮาฮ่าาาาาา 55555 บีได้สี Berry in Love มานะคะ เลือกสีนี้เพราะว่าสีดูเข้มกว่าสีอื่นๆ หลังจากไปลองเล่นมา และเนื้อค่อนข้างจะแน่น แถมเวลาเอาไปแมทกับลิปสีอ่อนอื่นๆมันออกมาสวยมากกกกก